top of page

โยนิโสมนสิการ หมายถึง การคิดโดยแยบคาย คือ การคิดดี คิดเป้น คิดถูกต้องและรอบคอบ ซึ่งการคิดแบบโยนิโสมนสิการนี้เป็นวิธีคิดที่ควรแก่การฝึกฝนและพัฒนาให้เกิดขึ้น เพื่อให้ชีวิตของเราดำเนินไปสู่ความสุข การคิดแบบโยนิโสมนสิการมี 10 วิธี แต่ในที่นี้จะนำมาให้ศึกษา 2 วิธี คือ วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรมและวิธีคิดแบบอรรถสัมพันธ์

วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม 

      วิธีคิดแบบอุบายปลุกเรัาคุณธรรม หมายถึง การคิดในทางที่ดี คิดในเชิงบวก คิดในทางที่เป็นกุศล หรือที่เรียกว่า การมองโลกในแง่ดี เป็นการคิดที่นำไปสู่การพัฒนาชีวิตที่ดีงามและเป็นประโยชน์ เพราะผู้ที่มองโลกในแง่ดี มักมีจิตใจที่ผ่องใส มีความสุข ต่างกับผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย มองเห็นสิ่งต่างๆแล้วคิดไปในทางที่ไม่ดีจึงมักจะมีความหงุดหงิด วิตกกังวล หวาดระแวง ทำให้เกิดความทุกข์ในใจ

      บุคคลสองคน มองสิ่งเดียวกัน อาจมีความคิดเห็นที่ต่างกัน คนหนึ่งมองเห็นแล้วคิดไปในทางที่ดีงามเป็นกุศล แต่อีกคนหนึ่งอาจคิดไปในทางอกุศล เป็นโทษ หรือแม้แต่บุคคลเดียวกัน แต่มองต่างเวลา ก็อาจมีความคิดเห็นแตกต่างกันในแต่ละครั้งได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ความรู้และประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมา

 

วิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์ 

      คำว่าอรรถ หมายถึง เนื้อความ ความหมาย ความมุ่งหมายผล ส่วนคำว่า ธรรม หมายถึง หลักการ แบบแผน หรือหลักประพฤติปฎิบัติ ซึ่งคำว่า อรรถ และ ธรรม มีความสัมพันธ์กันในแง่ของหลักการหรือหลักประพฤติปฎิบัติและความมุ่งหมายหรือผลของหลักการนั้นๆ

      วิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์ คือ การคิดที่เป็นเหตุเป็นผลกันของหลักการและผลของการกระทำนั้นๆ ว่า การกระทำดังกล่าว ทำเพื่อใครหรืออะไร แล้วผลที่ตามมาของการกระทำนั้นคืออะไร เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษอย่างไร

ต่อไป
bottom of page