top of page
มิตตวินทุกชาดก
เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภถึงภิกษุรูปหนึ่งว่าเป็นผู้ว่ายากสอนยาก ดังเช่นในอดีตชาติ แล้วจึงตรัสเล่าว่า ในอดีตกาล มีบุตรชายเศรษฐีคนหนึ่งในเมืองพาราณาสี ชื่อว่ามิตตวินทุกะ เป็นคนที่มีนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจตนเอง ไม่เชื่อฟังใครแม้แต่บิดามารดา เมื่อบิดาเสียชีวิต มารดาก็พยายามโน้มน้าวใจให้เขาใฝ่หาธรรม เมื่อถึงวันอุโบสถผู้เป็นมารดาจึงให้มิตตวินทุกะไปวัดเพื่อฟังพระธรรมเทศนา โดยบอกว่าจะให้เงินรางวัลด้วยความยากได้เงินมิตตวินทุกะจึงยอมไปวัด แต่มิได้เข้าไปฟังพระธรรมเทศนา กลับไปแอบหลับอยู่หลังธรรมาสน์ จนรุ่งเช้าค่อยกลับบ้าน ไปรับเงินจากมารดาตามที่ตกลงกันไว้
มิตตวินทุกะนำเงินที่ได้รับไปลงทุนค้าขายจนได้ผลกำไรดี แต่ด้วยความโลภ จึงคิดจะไปค้าขายทางทะเลมารดาห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง แม้จะฉุดรั้งไว้ แต่มิตตวินทุกะก็สลัดจนหลุด และผลักมารดาเสียหลักล้มลงแล้วเดินข้ามไปโดยไม่หันกลับมามองมารดาที่ร้องห้ามปรามเขาอีกเลย
มิตตวินทุกะเดินทางล่องเรือออกไปค้าขายกับบรรดาพ่อค้า จนล่วงเข้าวันที่ 7 เรือได้หยุดนิ่งอยู่กลางมหาสมุทร ทำอย่างไรก็ไม่สามารถแล่นต่อไปได้ ทุกคนมีความคิดเห็นว่าน่าจะมีคนกาลกิณีอยู่ในเรือ จึงได้ทำการจับฉลากเพื่อเสี่ยงทาย และมิตตวินทุกะก็จับฉลากได้ 3 ครั้ง ทำให้ถูกลอยแพลงกลางมหาสมุทรแพของมิตตวินทุกะลอยไปติดเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่อยู่ของนางเวมานิกเปรต 4 นาง แต่มิตตวินทุกะกลับมองเห็นเป็นหญิงสวยงาม จึงอยู่ร่วมกับนางเวมานิกเปรตทั้ง 4 แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ จึงเดินทางต่อไป จนพบเกาะ 3 เกาะ คือ วิมานเงิน ที่อยู่ของนางเวมานิกเปรต 8 นาง วิมานแก้วมณี ที่อยู่ของนางเวมานิกเปรต 16 นาง และวิมานทอง ที่อยู่ของนางเวมานิกเปรต 32 นาง ซึ่งมิตตวินทุกะได้อยู่ร่วมกับนางเวมานิกเปรตทั้งหมด แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ จึงออกเดินทางต่อไป
ในที่สุด เขาได้มาพบสถานที่แห่งหนึ่ง คือ อุสสาทนรก แต่ด้วยผลแห่งกรรมทำให้เขามองเห็นเป็นเมืองที่รุ่งเรือง สวยงาม เมื่อเข้าไปในนั้น เขาได้พบสัตว์นรกตนหนึ่งซึ่งได้รับทุกขเวทนาจากกงจักรที่อยู่บนศรีษะแต่มิตตวินทุกะกลับเห็นเป็นชายหนุ่มรูปงาม มีดอกบัวอยู่บนศรีษะ มิตตวินทุกะคิดอยากได้ดอกบัวนั้น จึงเข้าไปขอดอกบัว แต่สัตว์นรกนั้นบอกว่า ไม่ใช่ดอกบัว แต่เป็นกงจักร มิตตวินทุกะไม่เชื่อ รบเร้าจะเอาให้ได้สัตว์นรกนั้นคิดว่า ผลแห่งกรรมชั่วของตนคงหมดแล้ว จึงมอบกงจักรนั้นให้แก่มิตตวินทุกะ เมื่อได้รับกงจักรมาแล้ว เขาจึงได้รู้ว่าไม่ใช่ดอกบัว และขอให้ผู้เป็นเจ้าของเอาคืนกลับไป แต่สัตว์นรกตนนั้นได้หายไปเสียแล้ว
ฝ่ายรุกขเทวดา ซึ่งแท้จริงคือพระโพธิสัตว์ เมื่อทราบความทั้งหมด ได้กล่าวกับมิตตวินทุกะว่า เพราะ ความโง่เขลา ดื้อรั้น และความโลภ เห็นผิดเป็นชอบ จึงทำให้มิตตวินทุกะต้องทนทุกข์ทรมานจากกงจักรนี้ไปจนกว่าวิบากกรรมจะหมดสิ้นไป
bottom of page